ไฮไลท์
ท่านพระอาจารย์สุวรรณ สุจิณฺโณ ท่านเป็นลูกศิษย์ฝ่ายมหานิกายของหลวงปู่ใหญ่เสาร์ กนฺตสีโล และหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต อีกรูปหนึ่ง ท่านได้สร้างวัดกรรมฐานหลายวัด และมีลูกศิษย์ลูกหาที่เป็นฝ่ายปฏิบัติในสังกัดมหานิกายสืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้
พระอาจารย์สุวรรณ สุจิณฺโณ เกิดที่บ้านค้อ อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี เป็นศิษย์รุ่นแรกของหลวงปู่มั่น และเป็นศิษย์รุ่นกลางของหลวงปู่ใหญ่เสาร์
ในปี พ.ศ.๒๔๖๑ พระอาจารย์สุวรรณได้ติดตามหลวงปู่ใหญ่เสาร์ และหลวงปู่มั่น ไปจำพรรษาที่บ้านหนองลาด อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร พร้อมกับหลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม
พ.ศ.๒๔๖๖-๒๔๖๗ หลวงปู่ใหญ่เสาร์ และหลวงปู่มั่น ได้ออกธุดงค์มาแถบอีสานเหนือ คือ จังหวัดอุดรธานี หนองคาย หลวงปู่ทั้งสองได้จำพรรษาที่บ้านค้อ อำเภอผือ จังหวัดอุดรธานี
หลังออกพรรษาแล้ว ได้จาริกมายังอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย พระอาจารย์สุวรรณ ได้ติดตามมาฟังธรรมปฏิบัติด้วย
พระอาจารย์สุวรรณ มีนิสัยชอบสร้างวัด เช่น วัดป่าบ้านค้อ วัดป่าโศรกนาคำ วัดป่าสุจิณณารมย์ และวัดป่าอรัญญวาสี อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย
พระอาจารย์สุวรรณ สร้างวัด หรือโบสถ์วิหารใด ๆ ท่านมักจะให้มีรูปปั้นสุนัขเป็นสัญลักษณ์ ซึ่งมีผู้เล่าว่า เมื่อท่านอายุ ๖ เดือน มารดาได้เสียชีวิตลง ท่านได้คลานไปดูดนมสุนัขแทนนมมารดา ท่านจึงได้ชื่อเล่นว่า “หมา” ตั้งแต่นั้นมา
พระอาจารย์สุวรรณ เห็นว่าสุนัขมีบุญคุณต่อท่าน การสร้างวัดโบสถ์ วิหาร แทบทุกครั้งท่านจึงสร้างรูปสุนัขเป็นสัญลักษณ์ เป็นการสำนึกถึงบุญคุณนั้น นับเป็นการกตัญญูกตเวทีเป็นอย่างยิ่ง
พระอาจารย์สุวรรณ สุจิณฺโณ ได้เดินธุดงค์มาพบสถานที่แห่งนี้(วัดอรัญญวาสี จ.หนองคาย) ซึ่งเป็นป่ารกทึบด้วยกอไผ่ ต้นกระพอก และต้นกระบก เห็นเป็นสถานที่ร่มครึม ป่าทึบมาก ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร ทั้งยังมีพระพุทธรูปองค์หนึ่งชำรุดที่แขนไปบ้างแล้ว จึงเข้าไปอาศัยทำสมณกิจอยู่ในที่นั้น เมื่อชาวบ้านทราบข่าว จึงได้พากันไปปฏิบัติถากถาง ทำกระต๊อบเล็ก ๆ ให้ท่านอยู่อาศัย
ท่านอาจารย์สุวรรณ ได้อยู่จำพรรษาที่นั้นพรรษา หนึ่ง ออกพรรษาแล้วท่านก็ได้เที่ยวไปในที่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นวิสัยของพระกัมมัฏฐานในสมัยนั้น บางทีท่านก็กลับมาจำพรรษาอีก บางทีองค์อื่นก็มาแทน สับเปลี่ยนกันอย่างนี้ ญาติโยมผู้มีศรัทธาได้ทำกระต๊อบเล็ก ๆ ให้พออยู่จำพรรษาได้ บางที หลาย ๆ ปี ท่านก็กลับมาจำพรรษาอีก กุฏิชำรุดก็สร้างใหม่
พร้อมกันนั้นท่านก็ได้สั่งสอนประชาชน ให้รู้จักคุณของพระรัตนตรัยอย่างชัดแจ้ง และถือไว้เป็นหลักประจำใจ และสอนสมาธิภาวนาไปในตัวด้วย ซึ่งพระคณาจารย์ในสมัยนั้นหายากที่จะสอนแบบนี้ เหตุนั้น คนทั่วไปจึงนิยมนับถือมากเป็นพิเศษ
ในช่วงปัจฉิมวัย พระอาจารย์สุวรรณ ได้กลับมาจำพรรษาที่เมืองอุบลราชธานีบ้านเกิด และมรณภาพที่วัดใต้ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ประมาณ พ.ศ.๒๕๐๑-๒๕๐๒
#บรรณานุกรมอ้างอิง : คัดลอกมาจากหนังสือ "เนื่องในงานยกช่อฟ้าและผูกพัทธสีมา พระอุโบสถ วัดอรัญญวาสี อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย" ; เขียนและเรียบเรียงโดย พระนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาจารย์(เทสก์ เทสฺรํสี) ; พิมพ์ปี ๒๕๒๗ ; หน้า ๑๐ และ ๓๓ - ๓๔
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า

รูปถ่ายเก่า หลวงพ่อหมา พระครูสุวรรณ สุจิณโณ วัดใต้ อุบลราชธานี บรรจุตะกรุดจารมือ 3 ดอก

ท่านพระอาจารย์สุวรรณ สุจิณฺโณ ท่านเป็นลูกศิษย์ฝ่ายมหานิกายของหลวงปู่ใหญ่เสาร์ กนฺตสีโล และหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต อีกรูปหนึ่ง ท่านได้สร้างวัดกรรมฐานหลายวัด และมีลูกศิษย์ลูกหาที่เป็นฝ่ายปฏิบัติในสังกัดมหานิกายสืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้
พระอาจารย์สุวรรณ สุจิณฺโณ เกิดที่บ้านค้อ อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี เป็นศิษย์รุ่นแรกของหลวงปู่มั่น และเป็นศิษย์รุ่นกลางของหลวงปู่ใหญ่เสาร์
ในปี พ.ศ.๒๔๖๑ พระอาจารย์สุวรรณได้ติดตามหลวงปู่ใหญ่เสาร์ และหลวงปู่มั่น ไปจำพรรษาที่บ้านหนองลาด อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร พร้อมกับหลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม
พ.ศ.๒๔๖๖-๒๔๖๗ หลวงปู่ใหญ่เสาร์ และหลวงปู่มั่น ได้ออกธุดงค์มาแถบอีสานเหนือ คือ จังหวัดอุดรธานี หนองคาย หลวงปู่ทั้งสองได้จำพรรษาที่บ้านค้อ อำเภอผือ จังหวัดอุดรธานี
หลังออกพรรษาแล้ว ได้จาริกมายังอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย พระอาจารย์สุวรรณ ได้ติดตามมาฟังธรรมปฏิบัติด้วย
พระอาจารย์สุวรรณ มีนิสัยชอบสร้างวัด เช่น วัดป่าบ้านค้อ วัดป่าโศรกนาคำ วัดป่าสุจิณณารมย์ และวัดป่าอรัญญวาสี อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย
พระอาจารย์สุวรรณ สร้างวัด หรือโบสถ์วิหารใด ๆ ท่านมักจะให้มีรูปปั้นสุนัขเป็นสัญลักษณ์ ซึ่งมีผู้เล่าว่า เมื่อท่านอายุ ๖ เดือน มารดาได้เสียชีวิตลง ท่านได้คลานไปดูดนมสุนัขแทนนมมารดา ท่านจึงได้ชื่อเล่นว่า “หมา” ตั้งแต่นั้นมา
พระอาจารย์สุวรรณ เห็นว่าสุนัขมีบุญคุณต่อท่าน การสร้างวัดโบสถ์ วิหาร แทบทุกครั้งท่านจึงสร้างรูปสุนัขเป็นสัญลักษณ์ เป็นการสำนึกถึงบุญคุณนั้น นับเป็นการกตัญญูกตเวทีเป็นอย่างยิ่ง
พระอาจารย์สุวรรณ สุจิณฺโณ ได้เดินธุดงค์มาพบสถานที่แห่งนี้(วัดอรัญญวาสี จ.หนองคาย) ซึ่งเป็นป่ารกทึบด้วยกอไผ่ ต้นกระพอก และต้นกระบก เห็นเป็นสถานที่ร่มครึม ป่าทึบมาก ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร ทั้งยังมีพระพุทธรูปองค์หนึ่งชำรุดที่แขนไปบ้างแล้ว จึงเข้าไปอาศัยทำสมณกิจอยู่ในที่นั้น เมื่อชาวบ้านทราบข่าว จึงได้พากันไปปฏิบัติถากถาง ทำกระต๊อบเล็ก ๆ ให้ท่านอยู่อาศัย
ท่านอาจารย์สุวรรณ ได้อยู่จำพรรษาที่นั้นพรรษา หนึ่ง ออกพรรษาแล้วท่านก็ได้เที่ยวไปในที่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นวิสัยของพระกัมมัฏฐานในสมัยนั้น บางทีท่านก็กลับมาจำพรรษาอีก บางทีองค์อื่นก็มาแทน สับเปลี่ยนกันอย่างนี้ ญาติโยมผู้มีศรัทธาได้ทำกระต๊อบเล็ก ๆ ให้พออยู่จำพรรษาได้ บางที หลาย ๆ ปี ท่านก็กลับมาจำพรรษาอีก กุฏิชำรุดก็สร้างใหม่
พร้อมกันนั้นท่านก็ได้สั่งสอนประชาชน ให้รู้จักคุณของพระรัตนตรัยอย่างชัดแจ้ง และถือไว้เป็นหลักประจำใจ และสอนสมาธิภาวนาไปในตัวด้วย ซึ่งพระคณาจารย์ในสมัยนั้นหายากที่จะสอนแบบนี้ เหตุนั้น คนทั่วไปจึงนิยมนับถือมากเป็นพิเศษ
ในช่วงปัจฉิมวัย พระอาจารย์สุวรรณ ได้กลับมาจำพรรษาที่เมืองอุบลราชธานีบ้านเกิด และมรณภาพที่วัดใต้ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ประมาณ พ.ศ.๒๕๐๑-๒๕๐๒
#บรรณานุกรมอ้างอิง : คัดลอกมาจากหนังสือ "เนื่องในงานยกช่อฟ้าและผูกพัทธสีมา พระอุโบสถ วัดอรัญญวาสี อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย" ; เขียนและเรียบเรียงโดย พระนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาจารย์(เทสก์ เทสฺรํสี) ; พิมพ์ปี ๒๕๒๗ ; หน้า ๑๐ และ ๓๓ - ๓๔



เงื่อนไขอื่นๆ

รูปถ่ายเก่า หลวงพ่อหมา พระครูสุวรรณ สุจิณโณ วัดใต้ อุบลราชธานี

Tags

วิธีการชำระเงิน

บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาพระราม 3 ออมทรัพย์
พูดคุย-สอบถาม